โดย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล
ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดหนองคาย,นายแพทย์ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย, นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี ร่วมแถลงข่าวงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2565
ณ ลานวัฒนธรรมหน้าวัดลำดวน (พญานาคคู่ ริมโขง) จังหวัดหนองคาย
นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า งานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก เป็นกิจกรรมประเพณีที่สำคัญของชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เท่านั้น และในพื้นที่แต่ละอำเภอ มีกิจกรรมที่หลากหลายที่เป็นอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง อาทิ พิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาค, ไหลเรือไฟบูชาพญานาค และ การลอยกระทงกาบกล้วย ซึ่งก็มีเพียงจังหวัดหนองคายเท่านั้นที่มีการลอยกระทง 2 ครั้ง ใน 1 ปี เพื่อสักการะบูชาแม่น้ำโขง และ องค์พญานาคราช ตามความเชื่อ ส่วนไฮไลท์คือการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยมีความเชื่อว่าเป็นการสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ โดยในปีนี้ก็กิจกรรมพิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามา เป็นการดำเนินการจัดงานเป็นครั้งแรก คือ การจัดงานเทศกาลออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคสองฝั่งโขง เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยจัดงานดังกล่าวในวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ณ นิคมสร้างตนเองรัตนวาปี อำเภอรัตนวาปี ภายในงานประกอบด้วย การเดินแบบผ้าไทย
และการแสดงศิลปะวัฒนธรรม ไทย และ สปป.ลาว การแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณธรรม สินค้าทางวัฒนธรรม (CPOT) หรือสินค้าจากภาคเอกชน จากไทย และสปป.ลาว การประกวดบายศรีพญานาค
การประกวดภาพถ่าย รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกมากมาย ตลอดจนการทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ และ การทำบุญสักการะขอพร ตามรอยองค์พญานาคราช ใน 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัดหนองคาย
สำหรับวันออกพรรษาในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. 2565 ซึ่งจังหวัดหนองคายยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมที่เป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี ให้คงอยู่สืบไปคู่กับคนจังหวัดหนองคาย รวมถึงให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่มีการสืบสานกันมาอย่างยาวนาน โดยทางพื้นที่ในแต่ละอำเภอมีการกำหนดจุดพื้นที่และจำนวนผู้เข้าร่วมรับชมบั้งไฟพญานาคไว้อย่างชัดเจน สถิติในปีที่ผ่านมานั้น มีจำนวนลูกไฟ 615 ลูก ในพื้นที่ 2 อำเภอได้แก่ อำเภอโพนพิสัย จำนวน 115 ลูก และมากที่สุดคืออำเภอรัตนวาปี จำนวน 500 ลูก ซึ่งในปีนี้มีการกำหนดจุดชมบั้งไฟพญานาคหลายจุด
อาทิเช่น 1.วัดไทย ลานนาคาเบิกฟ้า อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย 2. บริเวณริมโขงบ้านท่าม่วง อำเภอรัตนวาปี 3. บ้านโพนแพง อำเภอรัตนวาปี 4. บ้านน้ำเป อำเภอรัตนวาปี 5. บ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย 6. บ้านตาลชุม อำเภอรัตนวาปี 7. บ้านหนองแก้ว อำเภอรัตนวาปี 8. บ้านอาญา อำเภอรัตนวาปี 9. บ้านเปงจาน อำเภอรัตนวาปี 10. บ้านเปงจานนคร อำเภอรัตนวาปี 11. บ้านต้อนน้อย อำเภอรัตนวาปี 12. บ้านต้อนใหญ่ อำเภอรัตนวาปี
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดหนองคายในห้วงเทศกาลออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลกในครั้งนี้ว่า ขอให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมของตนเอง ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง เพื่อเข้าชมบั้งไฟพญานาคในจุดที่ทางจังหวัดหนองคายได้กำหนดไว้เท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่ คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ขณะที่นายแพทย์ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การท่องเที่ยวในเทศกาลออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2565 จังหวัดหนองคาย นี้ ได้เน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่ายังคงมาตรการเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะผ่อนคลายหลายๆกิจกรรม แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกใหม่นั้น
จึงได้กำชับให้แต่ละหน่วยงาน แต่ละสถานที่ ได้มีมาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัด จึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทำตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ตาม D-M-H-T-T-A จากสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย คือ Distancing :การเว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร Mask wearing: การสวมหน้ากากผ้า Hand washing: การหมั่นล้างมือบ่อยๆ ทั้งน้ำสบู่ และ เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ Temperature: ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย Testing: การตรวจหาเชื้อ Application: Thai Cha Na การสแกนแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เดินทางไปสถานที่ต่างๆ
ทางด้าน พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เผยว่า ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยและการจราจร จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเรียบร้อย ให้บริการประชาชน พร้อมการสนธิกำลังกับหน่วยงานข้างเคียง ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงภารกิจสำคัญในการจัดการจราจร ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายวางมาตรการจัดการการเดินรถ การระบายรถ การบังคับใช้กฎหมายจราจร การเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนด
รวมถึงการประชาสัมพันธ์และกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวในห้วงเทศกาลออกพรรษานี้ นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อชมปรากฏการณ์ดังกล่าวจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสัมผัสปรากฏการณ์แห่งศรัทธาและร่วมกิจกรรมในงานประเพณีออกพรรษาและ บั้งไฟพญานาคโลก ซึ่งทุกท่านจะได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมที่เป็นศิริมงคลกับชีวิต และสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามความเชื่อความศรัทธาในเรื่องของพญานาคได้อีกหลายๆ แห่งในจังหวัดหนองคาย
นอกจากนี้ ภายในงานแถลงข่าวฯ มีเหล่าดาราคนดังที่มีความเชื่อ และศรัทธา ต่อองค์พญานาค นำโดยอาจารย์ก้อนคำ และบุคลที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย มาร่วมกิจกรรม สักการะ บูชาองค์พญานาค และ ทำบุญ 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเทศกาลออกพรรษา จังหวัดหนองคายในปีนี้ เพื่อการขอพร และเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ให้กับชีวิตต่อไป
*******************
No comments:
Post a Comment