นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “ด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้กรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง โดยมีพิธีสมโภชองค์พระกฐินพระราชทานไป เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา สำหรับการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ขอปวารณาถวายจตุปัจจัยถวายเป็นพระราชกุศล มียอดรวมจำนวนทั้งสิ้น 2,624,369 บาท (สองล้านหกแสนสองหมื่นสี่พันสามร้อยหกสิบเก้าบาทถ้วน) นอกจากนี้ภายในงานพิธีฯ ได้มีร้าน OTOP ชวนชิม จาก 34 จังหวัด ร่วมสมทบโรงทาน กว่า 70 ราย ในนามกรมการพัฒนาชุมชน ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญร่วมกับพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่ได้ร่วมทำบุญมหากุศลด้วยกันในครั้งนี้
"นับเป็นสรรพสิริมงคลต่อข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนทุกคนที่ได้มีโอกาสอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานมาทอดถวายยังพระอารามวัดพิกุลทอง พระอารมหลวง ทั้งนี้ เงินปัจจัยที่พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลฯ ในวันนี้ ทางวัดจะนำไปสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้พระภิกษุ สามเณร วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง ได้ประกอบศาสนกิจและเผยแผ่พระธรรมคำสอนเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของพุทธศาสนิกชน และบุญกุศลในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ ขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์" นายชัยวัฒน์ กล่าว
สำหรับวัดพิกุลทองตั้งอยู่ตำบลพิกุลทองชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าวัดหลวงพ่อแพ ซึ่งหลวงพ่อแพ เขมังกโร หรือ พระเทพสิงหบุราจารย์ เคยเป็นเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2542 ซึ่งท่านได้พัฒนาด้านศาสนสถานภายในวัดพิกุลทอง และส่งเสริมการเรียนพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร ปัจจุบันมีพระครูสิริพรหมโสภิต เป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง สำหรับประวัติและความเป็นมาของ วัดพิกุลทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี มีเนื้อที่ จำนวน 103 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวา มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน 15 แปลง มีเนื้อที่ทั้งหมด จำนวน 189 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวา วัดพิกุลทอง มีขุนสิทธิ์ สถิตย์บุตร (เสือ) นายกลับ สถิตย์บุตร และ นายช่วง เป็นหัวหน้าดำเนินการก่อสร้างวัดนี้ขึ้น โดยเดิมชื่อว่า วัดใหม่พิกุลทอง แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดใหม่ เพราะว่าเป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ในเขตนี้ โดยมิได้เป็นวัดร้างมาก่อน ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2434 ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2483 จึงได้ขอเปลี่ยนนามวัดเป็น "วัดพิกุลทอง" วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2515 อย่างไรก็ดีชาวบ้านในปัจจุบันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดหลวงพ่อแพ เพราะหลวงพ่อแพ อดีตเจ้าอาวาส เป็นพระที่ชาวบ้านเคารพรักมาก ท่านได้ทำประโยชน์ แก่พุทธศาสนาไว้มากมาย และเมื่อ พ.ศ.2535 ได้รับยกฐานะวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติและเครื่อง อัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน วัดมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ องค์สีทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24 เค รอบ ๆ พระวิหารใหญ่มีวิหารคด ซึ่ง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประจำวันต่าง ๆ และพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ภายใน เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24 กะรัตทอง รอบพระวิหารใหญ่มี วิหารคต ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประจำวัน และพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ บริเวณวัดมีสวนธรรมะและสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม แวดล้อมด้วยบรรยากาศสงบร่มรื่น วัดพิกุลทอง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสิงห์บุรี เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน และได้รับกฐินพระราชทานเป็นประจำทุกปี
No comments:
Post a Comment