วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานการประชุมกรมการพัฒนาชุมชน ครั้งที่ 11/2565 โดยมีรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกรม ผอ.สำนัก ศูนย์ฯ กอง ผู้บริหารส่วนภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference ไปยังสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด 76 จังหวัด กำกับ ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายเปิดปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล ระยะเร่งด่วน 3 เดือน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 ณ ห้องประชุมมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก กรุงเทพฯ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับกรมการพัฒนาชุมชน ดังนี้ 1. การสร้างภูมิคุ้มกันโดยการให้ความรู้ให้กับเยาวชนในการสร้าง กลไกระวังยาเสพติดในพื้นที่ชุมชนและสถานศึกษา 2. ลดผู้เสพรายใหม่ และดูแลรักษาบำบัดผู้เสพรายเก่า 3. ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการกองทุนแม่ของแผ่นดิน 4. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกระดับครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย 5. มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ทราบถึงแนวปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการแจ้งเบาะแสแจ้งข้อมูลให้กับคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ให้ สพจ./สพอ. และกองทุนแม่ของแผ่นดินดำเนินการ 1. Re X-ray กองทุนแม่ของแผ่นดิน และนำผลการ Re X-ray ให้จังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการในการลดผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด 2. ดำเนินการร่วมกับผู้นำชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการและแผนการป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติด 3. บูรณาการร่วมกับผู้นำชุมชนจัดกิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน เช่น การเฝ้าระวังยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน และค้นหาผู้เสพ ผู้ค้า อย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่องการรับรอง/ขยายผลครัวเรือนปลอดยาเสพติด การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในวันสำคัญต่าง ๆ การตั้งด่านตรวจและเวรยาม 4. การคัดเลือกหมูบ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำ 2566 ให้พิจารณาหมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านแพร่ระบาดยาเสพติดด้วย โดยใช้หอกระจายข่าวช่วยในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้พี่น้องประชาชน
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สู่การต่อยอด ขยายผล รอบที่ 2 อย่างต่อเนื่องสู่การสร้างโมเดลต้นแบบหมู่บ้านที่มีความมั่นคงด้านอาหาร ขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์รณรงค์กิจกรรมครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 10 ชนิด ให้ทุกคนช่วยกันทำกิจกรรมและเป็นตัวอย่างในพื้นที่
การขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ระยะที่ 2) ขอให้ติดตาม ดูแลครัวเรือนอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกเดือน บันทึกข้อมูลสภาพปัญหา และกิจกรรมการให้ความช่วยเหลือในระบบ TPMAP Logbook ทุกครั้งที่มีการลงพื้นที่
โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ตามที่ให้ดำเนินการสร้างฐานการเรียนรู้ให้ครบ 9 ฐาน เป้าหมาย 337 แปลง ดำเนินการสร้างฐานครบแล้ว 254 แปลง คงเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 83 แปลง ใน 15 จังหวัด ให้พัฒนาฐานเรียนรู้ให้มีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ บริหารจัดการดูแล บำรุงรักษา และส่งเสริม สนับสนุน การใช้ประโยชน์ครุภัณฑ์
โครงการตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้จังหวัดคัดเลือกเป้าหมาย อำเภอละ 1 ตำบล ส่งรายชื่อเป้าหมายให้กรมฯ ภายในวันที่ 7 ธ.ค. 2565 ผ่านทาง Google form หรือ QR code และให้จังหวัดจัดตั้งคณะทำงานฯ สร้างความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ขอให้จังหวัดจัดทำแผนการขับเคลื่อนตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และประกาศวาระ "ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" รายงานผลการประกาศวาระ "ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ให้กรมฯ ทราบ ภายในวันที่ 26 ธ.ค. 2565
โครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2566 "ลด OTOP สูงสุด 50% ผ่าน Click ชุมชน" กรมฯ ได้จัดทำ "ลด OTOP สูงสุด 50% ผ่าน Click ชุมชน" เป็นของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทย แก่ประชาชนสามารถรับคูปองส่วนลดสูงสุด 50% จากการดาวน์โหลดง่าย ๆ ผ่าน Click ชุมชน เพื่อซื้อสินค้า OTOP ได้ทั่วประเทศ ทั้งที่จำหน่ายออนไลน์ และร้านค้า OTOP ทั่วประเทศ ขอให้จังหวัดสร้างความเข้าใจกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน และสมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ และข้อให้จังหวัดปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ OTOP และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่เข้าร่วมโครงการของขวัญปีใหม่ฯ ผ่านช่องทางที่กำหนดภายในวันที่ 25 ของทุกเดือน (ภายในเดือนธันวาคม 2565 - เดือนมีนาคม 2566) ลดขั้นตอนสำหรับประชาชนในการเข้าถึงบริการในการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต ช่วยลดค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายของประชาชน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มช่องทางการจำหน่าย และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ ผู้ผลิต ผู้ประอบการ OTOP สร้างรายได้ให้ชุมชน
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีงานที่สำคัญ ๆ ภายในเดือนธันวาคม ดังนี้
1. การจัดกิจกรรมเนื่องในวันดินโลก 5 ธันวาคม 2565 (World soil day) ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดชื่อโครงการว่า “วันดินโลก : ดินดี อาหารดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข” โดยให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัดทุกจังหวัด อำเภอทุกอำเภอ เตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมวันดินโลกในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 กำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี โดยมอบ กรมการพัฒนาชุมชนรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์การตลาด เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้เรื่องวันดินโลก แก่ประชาชน เยาวชน เพื่อให้เกิดความตะหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน และเกิดจิตสำนึกในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน
2. จัดงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk festival 2022) ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ นิทรรศการผ้าไทย ผ้าไหม และจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้า และเครื่องแต่งกาย และงานหัตถกรรม กว่า 100 บูธ
3. จัดงาน OTOP City 2022 ในระหว่างวันที่ 17 – 25 ธันวาคม 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้ธีมงาน "มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย" ซึ่งกำหนดพิธีเปิดงาน ในวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ภายในงานจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จาก 76 จังหวัด ระดับ 3-5 ดาว มากกว่า 2,000 บูธ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และเพิ่มทักษะในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และ OTOP ชวนชิม เพิ่มช่องทางการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ขอเชิญชวนแฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากชุมชน มาชม ชิม ช็อป และภาคภูมิใจกับผลิตภัณฑ์จาก ภูมิปัญญาไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย
No comments:
Post a Comment