กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผนึกพลังเครือข่ายพร้อมใจหยุดภัยไข้เลือดออก เผยกลุ่มเด็กพบอัตราป่วยสูงสุด ส่วนกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ภาวะอ้วน หากติดเชื้อเสี่ยงเสียชีวิตได้ - Go Ahead News

Go Ahead News

ก้าวไปข้างหน้ากับเรา

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, June 14, 2023

กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผนึกพลังเครือข่ายพร้อมใจหยุดภัยไข้เลือดออก เผยกลุ่มเด็กพบอัตราป่วยสูงสุด ส่วนกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ภาวะอ้วน หากติดเชื้อเสี่ยงเสียชีวิตได้

 
















กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในช่วงนี้ มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ระยะนี้มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกิดน้ำขังค้างในภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย เผยกลุ่มเด็กพบอัตราป่วยสูงสุด ส่วนกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีน้ำหนักเกิน หากติดเชื้อ อาจเสียชีวิตได้ พร้อมจับมือกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำงาน อสม. เข้มแข็ง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดูแลประชาชน และองค์การบริหารส่วนจังหวัด กำกับงานสาธารณสุขพื้นฐานในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ เน้นพื้นที่ “บ้าน วัด โรงเรียน” ซึ่งเป็นสถานที่สำรวจแล้วพบลูกน้ำยุงลายสูงสุด 


วันนี้ (14 มิถุนายน 2566) ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดกิจกรรมพัฒนาความร่วมมือและเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสาธารณสุข ด้านการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยมีนายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางสาวพัชร์ชิสา พชิระธารีรัตน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และคณะผู้บริหารกรมควบคุมโรค เข้าร่วม


นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 ประเทศไทยจะพบการระบาดของโรคไข้เลือดออกมากขึ้นตามวงรอบของปีที่จะระบาด โดยในปีนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 7 มิถุนายน 2566 พบรายงานผู้ป่วยจำนวน 19,503 ราย เสียชีวิต 17 ราย   และจำนวนผู้ป่วยปี 2566 มากกว่า ปี 2565 ณ ช่วงเวลาเดียวกันถึง 3.8 เท่า กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงที่สุด ได้แก่ อายุ 5-14 ปี รองลงมา 15-24 ปี จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงที่สุดใน 4 สัปดาห์ล่าสุด คือ จังหวัดตราด (เกาะช้าง บ่อไร่ แหลมงอบ คลองใหญ่) น่าน (สองแคว ทุ่งช้าง เชียงกลาง) จันทบุรี (เมือง ท่าใหม่ มะขาม) แม่ฮ่องสอน (ขุนยวม แม่ลาน้อย) และสตูล (เมือง) ตามลำดับ รวมการระบาดใน 348 อำเภอ 71 จังหวัด ซึ่งประเมินความเสี่ยงพบมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกภาค ส่วนปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยที่เสียชีวิตคือไปรักษาที่โรงพยาบาลช้าเกินไป มีภาวะอ้วน ได้รับยากลุ่ม NSAIDs มาก่อน และมีโรคประจำตัว

          

กรมควบคุมโรค จึงร่วมกับจังหวัดปทุมธานี และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จัดให้มีการรณรงค์ “บ้าน วัด โรงเรียน” พร้อมใจ หยุดภัยไข้เลือดออก สืบเนื่องจากมีการสำรวจลูกน้ำยุงลายโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ล่าสุด โดยใช้แอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ สำรวจใน 7 สถานที่เสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก พบลูกน้ำยุงลายที่วัด โรงเรียน และสถานที่ราชการ มีค่าดัชนีความหนาแน่นสูงสุด จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ถูกต้อง อาทิเช่น วัด เป็นแหล่งที่ผู้คนเข้า-ออกทำบุญอย่างต่อเนื่อง โดยพระสงฆ์ไม่สามารถกำจัดลูกน้ำและยุงลายได้ด้วยตัวเอง จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่า เข้าวัดอย่าสร้างขยะ เช่น แก้วพลาสติก กล่องโฟมใส่อาหาร ที่อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ รวมทั้งควรมีจิตอาสาที่จะช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในวัดไม่ให้มีแหล่งน้ำขัง กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ส่วนโรงเรียนต้องมีมาตรการเข้มข้นในการฝึกทักษะนักเรียนให้สามารถจัดการกับปัญหายุงลายได้ เช่น จัดเวรดูแลอ่างบัว แจกันพลูด่าง ปล่อยปลาหางนกยูงเพื่อกินลูกน้ำ เป็นต้น และต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ยุงกัดนักเรียน 


นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า งานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกถือเป็นงานสำคัญในบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่มีอยู่กว่าล้านคนทั่วประเทศ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นกรมที่กำกับดูแล อสม. เหล่านี้ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานไปในทิศทางที่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาผลงานดังกล่าวมีคุณภาพเป็นที่ประจักษ์ต่อคนไทย และนานาชาติให้การชื่นชมเป็นอย่างมาก อสม. มีหน้าที่ดูแลสำรวจลูกน้ำยุงลายร่วมกับเจ้าของบ้านในกลุ่มบ้านที่รับผิดชอบ รวมทั้งร่วมรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคต่างๆ หลากหลายกิจกรรมเป็นที่น่าชื่นชม ถือเป็นงานจิตอาสาอีกทางหนึ่งด้วย


นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเสริมว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มองเห็นปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออก และได้กำกับดูแลบุคลากรในด้านต่างๆ ของท้องถิ่นทั่วภูมิภาคประเทศไทย ทำงานใกล้ชิดประชาชน ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานทางด้านสาธารณสุขแก่ท้องถิ่นได้ โดยเร่งประสานงานกับ อสม. ขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมร่วมกับประชาชน เพื่อลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างจริงจัง


ด้านนางสาวพัชร์ชิสา พชิระธารีรัตน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจด้านสุขภาพ เช่น การป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกถือเป็นงานสำคัญของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนของจังหวัด อบจ. ปทุมธานี มีหน้าที่กำกับดูแลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลโดยตรง ทั้งที่โอนย้ายมาแล้วและในส่วนที่กำลังดำเนินการ รพสต. เป็นที่พึ่งของประชาชนในการวินิจฉัยโรคเบื้องต้น และการควบคุมโรคหากเกิดเจ็บป่วย จะได้เร่งรัดงานสำคัญนี้ ต่อไป 


ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด โดยการทายากันยุงหรือนอนในมุ้ง และหากประชาชนมีอาการไข้สูงลอย ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด ซึ่งมีผลทำให้เลือดออกในช่องทางเดินอาหารและยากต่อการรักษา เสี่ยงต่อการเสียชีวิต หากมีไข้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจน จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม และช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


*************************

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อนำโดยแมลง/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 14 มิถุนายน 2566


No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad