ในวาระครบรอบ 22 ปีแห่งการสถาปนาสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยเมียนมา สมาคมซึ่งเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชนชาวไทยและชาวเมียนมา ในด้านการค้า การลงทุน วัฒนธรรมและศาสนา
ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมและสมาชิกได้ร่วมกันจัดงานทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 9 รูป ณ ที่ทำการใหม่ของสมาคม ที่อาคาร ส. ขอนแก่น ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 5.5. ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โดยพลเอก วิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยเมียนมาคนปัจจุบันเป็นประธานร่วมกับพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร อดีตนายกสมาคมฯคนที่สอง และได้เชิญ ฯพณฯ อู ชิต สเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย มาเป็นแขกพิเศษ เป็นประธานในพิธีสงฆ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนไตรและถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
จากนั้นได้ทำพิธีเจิมป้ายชื่อสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยเมียนมา ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคาร ส. ขอนแก่น โดย มีนายอู ชิต สเว ฯพณฯ เอกอัครราชทูตประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้ร่วมเป็นเกียรติในพิธีด้วย
หลังจาก พระสงฆ์ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์แล้ว ได้เข้าร่วมประชุมเป็นระยะเวลาสั้นๆ กับคณะกรรมการบริหารของสมาคม ซึ่ง พลเอก วิชิต ยาทิพย์ ได้กล่าวรายงานให้ทราบถึงความเป็นไปการริเริ่มก่อตั้งสมาคมว่า
เป็นความคิดริเริ่มของ ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเวลานั้น จุดประสงค์เพื่อมุ่งหวังให้เป็นช่องทางในการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการระหว่างไทยและเมียนมา ในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงในด้านวัฒนธรรม และจิตวิทยาต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ
โดยนายกสมาคมคนแรกคือ พลเอก พัฒน์ อัคนิบุตร
คนที่สองคือพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งดำรงตำแหน่งทั้งผู้บัญชาการทหารบกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท่านเป็นผู้มีคุณานุประการอย่างสูงต่อสมาคม ซึ่งได้ส่งเสริมและช่วยเหลือในการดำเนินงาน ให้แก่สมาคมให้สามารถเติบโตก้าวหน้าอย่างราบรื่นตลอดมา
ทั้งนี้ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมในพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อทำบุญครบรอบ 22 ปีแห่งการสถาปนาสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยเมียนมา และดีใจที่มีการจัดตั้งสมาคมนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสมาคมที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวเมียนมาและชาวไทย การดำเนินกิจการได้สะดุดหยุดไปในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ตนเองในฐานะเอกอัครราชทูตของเมียนมาขอแสดงเจตนาที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่สมาคม ต่อไป โดยหลังจากวันนี้เป็นต้นไป จะทำการติดต่อกับทางสมาคมอย่างใกล้ชิด โดยตนจะมาเยี่ยมเยียนกับคณะกรรมการบริหารของสมาคมมากขึ้น
ในการนี้ พลเอก วิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยเมียนมา กล่าวขอบคุณ ฯพณฯ เอกอัครราชทูต โดยได้นำเสนอกับเอกอัครราชทูตว่า ในการจัดตั้งสมาคมคู่แฝดของสมาคม ซึ่งทางเมียนมาจะดำเนินการต่อไปนั้น จะมีการหารืออย่างใกล้ชิดกับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตว่า หากท่าน ฯเห็นว่าชาวเมียนมาท่านใดเหมาะสมต่อการเป็นนายกสมาคมของสมาคมคู่แฝด เมียนมา-ไทย ทางฝ่ายไทยพร้อมรับฟังและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ตามที่ท่านเห็นสมควร
และในท้ายที่สุดนี้ พลเอก วิชิต ยาทิพย์ กล่าวว่าจะมีการนำสมาชิกและคณะกรรมการบริหารของสมาคมและประธานสาขาต่าง ๆ เข้าพบเพื่อเยี่ยมเยือน ฯพณฯ เอกอัครราชทูต ในโอกาสต่อไป และพร้อมที่ร่วมมือในการทำงานร่วมกันกับสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา เพื่อให้มีการลงทุนในด้านการค้าระหว่างไทย-เมียนมา ต่อไป
No comments:
Post a Comment