วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) แถลงข่าวเปิดโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 4 โดยมี นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. และ ผศ. ดร.วิภู รุโจปการ รองผู้อำนวยการ สดร. ร่วมเป็นประธานในพิธี ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4
เผยลิสต์ 16 พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ทั่วประเทศ พร้อมมอบโล่เพื่อประกาศแก่พื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย เพื่อปลุกกระแสการเดินทางมิติใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษที่ต้องการเดินทางสัมผัสความงดงามของธรรมชาติยามค่ำคืน ณ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคาร ททท.
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า โครงการ “AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 4” หรือ โครงการเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท. และ สดร. ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบ
Dark Sky Tourism กิจกรรมยอดนิยมในหมู่ผู้สนใจดาราศาสตร์ตลอดจนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบการตั้งแคมป์ และกิจกรรมกลางแจ้ง โดย ททท. เล็งเห็นประโยชน์ของการต่อยอดประชาสัมพันธ์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพดังกล่าว พร้อมยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยสุดประทับใจ (Grand Moment) ให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปรับความสุขท่ามกลางธรรมชาติสัมผัสความสวยงามของท้องฟ้าประเทศไทย ตื่นตาตื่นใจท้องฟ้าในยามค่ำคืน ณ สถานที่ดูดาวทั่วทุกภูมิภาค อีกทั้งยังสะท้อนศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวไทยที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวอย่างครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ผศ. ดร.วิภู รุโจปการ รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติในฐานะหน่วยงานหลักด้านดาราศาสตร์ของประเทศไทย ได้ดำเนินกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ในหลายมิติ โดยหนึ่งในโครงการสำคัญอย่าง AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 4 นับเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกับ ททท. ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากมลภาวะทางแสง อนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้า และให้ความสำคัญในการประหยัดพลังงานและปรับพฤติกรรมการใช้แสงไฟ โดยใช้ดาราศาสตร์มากระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศรายชื่อพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดของประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 48 พื้นที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย
และในปี 2568 ได้มีการขึ้นทะเบียนอีก 16 พื้นที่เพิ่มเติม เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูดาวแห่งใหม่ของประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเปิดมิติใหม่ให้กับการท่องเที่ยวไทย ด้วยเสน่ห์ของท้องฟ้ายามค่ำคืนและความงดงามของดวงดาว พร้อมจุดประกายให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์มากขึ้น ทั้งนี้ หวังว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์และเป็นสถานที่ถ่ายภาพสำหรับกลุ่มนักดาราศาสตร์สมัครเล่น นอกจากนี้ในอนาคต สดร. ยังตั้งเป้าผลักดันให้เกิดเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างเพื่อให้ดาราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
สำหรับ 16 พื้นที่ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยประจำปี 2568 ภายใต้โครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูดาวแห่งใหม่ และแหล่งการเรียนรู้ดาราศาสตร์เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมดาราศาสตร์ในการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจ มีรายละเอียดดังนี้
อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) จำนวน 5 พื้นที่ ได้แก่ ทุ่งโนนป่าก่อ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน จังหวัดมุกดาหาร, อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ, อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จังหวัดเลย, อุทยานภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล (Dark Sky Properties) จำนวน 9 พื้นที่
ได้แก่ โกลเด้น คลิฟ บีช รีสอร์ท จังหวัดตราด, ดารกะ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่, ดารา ควิซีน ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, บ้านไร่นายเขียว จังหวัดขอนแก่น, ฟาวน์เท่นทรีรีสอร์ท จังหวัดนครราชสีมา, ภูพร้อมดาว ฟาร์มสเตย์ จังหวัดชัยภูมิ, วนธารา รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก, สวนป่าแม่ละเมา(ออป) จังหวัดตาก และสวนแม่ฟ้าหลวง โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงรายเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง (Dark Sky Suburbs) จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ คชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ และ สวนวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
ทั้งนี้ หน่วยงาน โรงแรม รีสอร์ท ชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์ ทั่วประเทศที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยได้ที่ https://darksky.narit.or.th/ หรือสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวดูดาวในรูปแบบ e-book ได้ที่ https://shorturl.at/CC75X
No comments:
Post a Comment