บูรณาการเข้ม! พม. จับมือ ตร. สางปัญหาขอทาน ดันมาตรการ- เร่งคุมเข้มต่างด้าวผิดกฎหมาย"

 

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ โซน C ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมด้วย นางสาวธิดาพร เสาวนะ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต  ได้เข้าพบหารือกับ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการควบคุมและแก้ไขปัญหาการขอทานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559

นายกันตพงศ์ กล่าวว่า ในการประชุม  ได้มีการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์การขอทานย้อนหลัง 10 ปี โดยพบว่ามีผู้ทำการขอทานสะสม จำนวนทั้งสิ้น 8,324 ราย แบ่งเป็นคนไทย 5,471 ราย และคนต่างด้าว 2,853 ราย โดยพบว่ากว่าร้อยละ 25.67 เป็นผู้ที่เคยกระทำการขอทานซ้ำ จังหวัดที่พบการขอทานมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี ปทุมธานี และนครราชสีมา ตามลำดับ

สำหรับปีงบประมาณ 2568 มีผู้ทำการขอทานจำนวน 442 ราย แบ่งเป็นคนไทย 302 ราย และคนต่างด้าว 140 ราย โดยมีการแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน พม. 1300 พบว่าพื้นที่ที่มีการแจ้งเหตุสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี โดยเฉพาะในเขตวัฒนา คลองเตย ปทุมวัน ป้อมปราบศัตรูพ่าย และราชเทวี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงของปัญหาการขอทานกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายและขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ผลการหารือร่วมกันระหว่างสองหน่วยงาน มีแนวทางความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

✅เสนอแนวทางส่งเสริมการแจ้งเบาะแส โดยมอบเงินรางวัลแก่ประชาชนที่แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ทำการขอทานต่างด้าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและลดปัญหาการหลั่งไหลของคนขอทานที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย

✅กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการขอทานอย่างเคร่งครัด

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

✅จัดส่งฐานข้อมูลผู้กระทำการขอทานให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ในการติดตาม ตรวจสอบ และป้องกันอย่างเป็นระบบ

✅จัดทำประกาศมอบอำนาจและกำหนดหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559

✅หารือร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรมเกี่ยวกับแนวทางการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม

การหารือในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และแก้ไขปัญหาการขอทานอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม นายกันตพงศ์ กล่าวในตอนท้าย