‘ภูมิธรรม‘ เผย แม่ทัพภาคที่ 2 ชงปิดปราสาทตาเมือนธม เสนอ สมช.​ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ พร้อม​ สั่ง มท.เสริมความแข็งแกร่งหลุมหลบภัยรับอาวุธหนัก ย้ำชัดจุดยืนต้องปรับกำลังก่อน เปิดด่านต้องพร้อมกัน - Go Ahead News

Go Ahead News

ก้าวไปข้างหน้ากับเรา

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, June 23, 2025

‘ภูมิธรรม‘ เผย แม่ทัพภาคที่ 2 ชงปิดปราสาทตาเมือนธม เสนอ สมช.​ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี​ พร้อม​ สั่ง มท.เสริมความแข็งแกร่งหลุมหลบภัยรับอาวุธหนัก ย้ำชัดจุดยืนต้องปรับกำลังก่อน เปิดด่านต้องพร้อมกัน

วันนี้ (24 มิ.ย. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม​ จังหวัดสุรินทร์ มากผิดปกติจนมีนัยสำคัญ​ ว่า​ อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธมอยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ หรือ​ สมช.​ ในขณะที่รัฐบาลก็กำกับดูแล เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลรับรู้ทั้งหมด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน สมช.มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณา มาตรการเปิด - ปิดด่านใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่าทหารอยู่ด่านหน้า สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน






ส่วนอำนาจในการตัดสินใจ ที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธม เป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้ามหรือไม่ห้าม และประสาทตาเมือนธมที่ผ่านมาขึ้นมาได้ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกเว้นแต่มีคำสั่ง ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ และเชื่อว่าทางทหารจะสามารถดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ได้ แม้ปัจจุบันจะมีชาวกัมพูชา และไทย ขึ้นไปเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม​ เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาเขาก็กลับไปตามปกติ แต่ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริงว่าควรจะปิดการท่องเที่ยวปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งทำเรื่องผ่านกองทัพบก มายังรัฐบาลเพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุม สมช.


เมื่อถามว่าสุดท้ายจะต้องให้ สมช. และรัฐบาลเป็นผู้อนุมัติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า เป็นไปตามขั้นตอน อำนาจอยู่ตรงนี้ก็ให้ไปดู หากจะทำเลยก็สามารถทำได้​


ส่วนได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ หลังมีการยกระดับมาตรการผ่านด่านเข้มข้นขึ้น และสถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดมากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม ระบุว่า ประชาชนตามแนวชายแดนไม่ถึงขนาดตึงเครียดจนน่ากังวลใจ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้ไปสำรวจหลุมหลบภัย ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว​ แต่สามารถกันอาวุธได้บางส่วน ไม่แน่ใจว่าหากเป็นอาวุธหนัก จะสามารถป้องกันได้หรือไม่ จึงได้เร่งให้ทางมหาดไทยไปจัดการ เพื่อเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยให้มากยิ่งขึ้น


ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชา มีการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธหนักเข้าประชิดพื้นที่ชายแดนมีนัยอะไรหรือไม่​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า สำหรับในส่วนของกองทัพ เราเตรียมความพร้อมไว้ทุกเรื่องแล้ว และเชื่อว่ากำลังที่มีอยู่เพียงพอที่จะรับสถานการณ์  


เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย​ ศรีสุทธิยากร​ ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม​ เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา​ เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ หรือ GBC ครั้งล่าสุด​  นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างทำตาม MOU 43​ ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอน การประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย​-กัมพูชา หรือ RBC​ ซึ่งทางกัมพูชา รอสมเด็จฮุนเซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ​  พร้อมกับขอนายสมชัยอย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง


เมื่อถามถึงกรณีที่นายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อน แล้วกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชั่วโมง แล้วจะกำลังค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิ​ธรรม​ ระบุว่า​ เรามีเงื่อนไข และข้อเสนอที่วางไว้ คือลดการเผชิญหน้า ตลอดแนวชายแดน ให้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมด เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ โดยการกำหนดวัน​-เวลา ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาบอกว่าอำนาจทุกอย่างอยู่ที่สมเด็จฮุนเซนเพียงคนเดียว ซึ่งก็ยอมรับว่าได้มีการเสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง​ ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่าเป็นไปไม่ได้จุดยืนของเราต้องดำเนินการคือให้มีการปรับกำลังก่อนเปิดด่านพร้อมกัน​ จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อนเราเปิดก่อนคงไม่ได้​ เพราะตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน


นายภูมิธรรม​ ย้ำว่า​ การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา​ ในขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ ในการประชุม RBC​ ที่จะเกิดขึ้น​


เมื่อถามว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องไปพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนเพื่อให้ได้ข้อยุติ ในเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การจะเปิดด่าน เป็นเรื่องของที่ประชุม  RBC​ ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตายจะไม่ประชุมนั้น ตนเองว่ามันสามารถพูดคุยและเจรจาได้ คำพูดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อมีปัญหา หรือมีประโยชน์ ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุย และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad