วันที่ 2 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรม ทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประในพิธีปิดและมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการเพิ่มขีดสมรรถนะองค์กรดิจิทัลด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลและระบบบริการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการพัฒนาชุมชน รุ่นที่ 2 โดยมี นางสาวประภาพรรณ วุ่นสุข ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้กล่าวรายงาน นายเกียรติปราโมทย์ ฉายศรี ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนที่เกี่ยวข้อง กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคใต้ จำนวน 78 คน เข้าร่วมการฝึกอบรมฯ
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงกระบวนงานของหน่วยงานภาครัฐ (Disruptive Technology) และกรมการพัฒนาชุมชน ได้พัฒนาและปรับปรุงระบบ Big Data ให้สามารถบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลงานพัฒนาชุมชนภายในหน่วยงาน และรองรับข้อมูลสำคัญของส่วนราชการอื่น ๆ ตลอดจนข้อมูลสาธารณะต่าง ๆ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการตามภารกิจและยกระดับการให้บริการประชุมชนให้เกิดความสะดวก รวดเร็วต่อการเข้าถึงข้อมูลงานพัฒนาชุมชน โดยคำนึงถึงศักยภาพในการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล (Digital Transformation) กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มขีดสมรรถนะองค์กรดิจิทัลด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลและระบบบริการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการพัฒนาชุมชน ให้กับบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชน ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) เพื่อเสริมสมรรถนะด้าน IT ให้กับบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชนให้มีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของรัฐบาลในการก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัลให้บรรลุผลสัมฤทธิ์อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานสังคม และประเทศชาติ จากการพัฒนาคน สร้างทักษะใหม่ๆ หรือสกิล ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้บุคลากรของกรมฯ นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน มีทักษะรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่องค์กรดิจิทัลและขับเคลื่อนพัฒนาไปสู่รัฐบาลดิจิทัลในอนาคตได้อย่างแน่นอนและมีประสิทธิภาพ และเพื่อเชื่อมโยงสนับสนุนข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยให้ครอบคลุมภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป
No comments:
Post a Comment