บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เป็นประธานในพิธีสดุดีกองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2566 - Go Ahead News

Go Ahead News

ก้าวไปข้างหน้ากับเรา

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Friday, February 10, 2023

บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เป็นประธานในพิธีสดุดีกองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2566








เน้นย้ำ น้อมนำพระบรมราโชวาทมาเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และประเทศชาติ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ 

 

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมพิธีสดุดีกองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2566 โดยมี นายกองใหญ่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เป็นประธานในพิธี มี นายกองเอก อนุชา โมกขะเวส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายกองเอก พรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายกองเอก โชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายกองเอก แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชากองอาสารักษาดินแดน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี


โอกาสนี้ นายกองใหญ่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นประธานมอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ” เข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี รางวัลกองร้อยอาสารักษาดินแดนดีเด่น และรางวัลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนผู้ปฏิบัติงานดีเด่น พร้อมกล่าวสดุดี และพบปะสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน


นายกองใหญ่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน ให้ไว้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2497 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน และพระราชทานธงประจำกองอาสารักษาดินแดน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พุทธศักราช 2497 ในพิธีสวนสนามคราวเดียวกันนั้น ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ความว่า “ขอให้เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยพยายามฝึกสอนอบรมประชาชน ให้เข้าใจกิจการในหน้าที่ของตน ทั้งในส่วนตัวของบุคคล ของครอบครัว ของหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ ตลอดจนชาติบ้านเมืองในที่สุด เพื่อได้มีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน ที่จะช่วยป้องกันภัยอันตราย และรักษาความสงบในท้องถิ่นของตน ด้วยความองอาจ กล้าหาญ และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อชาติบ้านเมือง และความเป็นเอกราชของเรา จะได้วัฒนาถาวร”


“ขอให้ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนทุกท่าน ได้น้อมนำพระบรมราโชวาท มาเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และประเทศชาติสืบไป” นายกองใหญ่ อนุพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ


นอกจากนี้ นายกองเอก สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้มอบสารเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครบรอบ 69 ปี ในปี 2566 โดยระบุว่า กองอาสารักษาดินแดน จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังภาคประชาชนในการช่วยเหลือประเทศชาติทั้งในยามปกติและยามสงคราม เป็นหน่วยงานที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายปกครอง ในการขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงของชาติ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บุคลากรของกองอาสารักษาดินแดน ได้ปฏิบัติภารกิจด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท กล้าหาญ และเสียสละ ส่งผลให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงและบังเกิดผลดีแก่ประชาชน ดังนั้น ขอให้ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนทุกท่าน จงรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศและชื่อเสียงของกองอาสารักษาดินแดน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การบรรเทาสาธารณภัย การส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้เรียนรู้และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งหมั่นฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถมีทัศนคติ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอันส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และเกิดประโยชน์กับประเทศชาติสืบไป

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad