วันนี้ ( 21 ธ.ค.65) ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมด้วย ศ.คลินิก นพ.วิศิษฏ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ ผศ. นพ.ธีรวุฒิ ธรรมวิบูลย์ศรี รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ และผู้บริหารคณะฯ จัดงานแถลงข่าว “ศิริราช – สมุทรสาคร รวมพลังจัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อผู้สูงวัย” เพื่อกล่าวถึงความคืบหน้าของการก่อสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” จ. สมุทรสาคร โดยจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2566 พร้อมข้อมูลการจัดกิจกรรมระดมทุนให้กับศูนย์ผู้สูงอายุฯ ณ ลานสาครบุรี ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยในประเทศไทยจะเพิ่มเป็น 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ซึ่งจะทำให้ผู้สูงวัยใช้บริการ รพ. หรือคลินิกผู้สูงอายุด้วยโรคประจำตัวเพิ่มมากขึ้น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลม.มหิดล ได้เตรียมการมากว่า 20 ปี ด้วยการส่งทีมแพทย์เข้ารับการศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับเวชศาสตร์ผู้สูงวัยจากสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาและตั้งรับกระบวนการดูแล การให้บริการสุขภาพเพื่อผู้สูงวัยแบบบูรณาการ ทั้งการฟื้นฟู การป้องกัน การรักษาตามวัย พร้อมผลิตทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงวัยให้เพียงพอ ผลิตงานวิจัย และงานวิชาการที่ครบวงจรแบบสหวิชาชีพ เพื่อให้การดูแลผู้สูงวัยครบทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก คือ ให้ความรู้เรื่องการเตรียมตัวเข้าสู่ผู้สูงวัย , เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยให้ดีขึ้น, กระตุ้นสังคมให้เริ่มขยับและปรับตัวเรื่องการดูแลผู้สูงวัย และวางระบบการดูแลผู้สูงวัยในระดับนโยบาย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ดำเนินการก่อสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติศิริราช
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวถึงศูนย์ผู้สูงอายุว่า “ในนามของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ผู้สูงอายุและคนไทยทั้งปวง ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดตั้งศูนย์ต้นแบบเพื่อสุขภาพผู้สูงวัยในจังหวัดสมุทรสาครเป็นแห่งแรก เพื่อขยายผลไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ในอนาคตต่อไป ศูนย์แห่งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการกระตุ้น หรือเชิญชวนคนทั้งจังหวัดสมุทรสาครร่วมเป็นแบบอย่างของจังหวัดที่มีระบบการดูแลผู้สูงอายุที่ดีต่อไป ผมขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ทุกหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งชาวจังหวัดสมุทรสาครร่วมกันสนับสนุนและบริจาคเพื่อให้ศูนย์ผู้สูงอายุได้ดำเนินอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ร่วมส่งเสริมให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยความรักเมตตาและความเข้าใจจากใจเราคนไทยทุกคน”
สำหรับ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้ดำเนินการก่อสร้าง ณ ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเพื่อให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล มีศูนย์กลางการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้บุคลากรทั่วไปมีความรู้และทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นศูนย์ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงอายุตามหลักการทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ รวมทั้งเป็นศูนย์ศึกษาและผลิตงานวิจัย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในผู้สูงอายุ และเป็นต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับสถานบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
ภายในประกอบด้วย 12 กลุ่มอาคาร แบ่งเป็น กลุ่มอาคารให้บริการ จำนวน 6 อาคาร ได้แก่ 1) อาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม 2) อาคารผู้ป่วยนอก 3) อาคารผู้ป่วยใน 1 4) อาคารผู้ป่วยใน 2 5) อาคารฟื้นฟูและบำบัด 6) อาคารหอพักบุคลากรและศูนย์สูงวัยสุขภาพดี และกลุ่มอาคารสนับสนุนจำนวนอีก 6 อาคาร อาทิ อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย อาคารสนับสนุนครัว อาคารบริการผ้าและโภชนาการ โดยแต่ละอาคารจะมีทางเชื่อมระหว่างกันหรือ skywalk เพื่อการสัญจรที่ปลอดภัย ซึ่งในขณะนี้การดำเนินการก่อสร้าง ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ 84.37 % โดยจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2566 ประกอบด้วย อาคารผู้ป่วยนอก อาคารผู้ป่วยใน 1 อาคารฟื้นฟูผู้สูงอายุ อาคารหอพักบุคลากรและศูนย์สูงวัยสุขภาพดี อาคารบริการโภชนาการ อาคารบริการผ้า อาคารพักร่าง อาคารบำบัดน้ำเสีย อาคารพักขยะ อาคารห้องเครื่องงานระบบวิศวกรรมและซ่อมบำรุง และทางเชื่อมอาคาร (Skywalk) รวมถึงพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก
ความคืบหน้าการก่อสร้างระยะที่ 2 ของโครงการศูนย์ผู้สูงอายุ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2566 – 2568 ประกอบด้วย อาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อาคารผู้ป่วยใน 2 อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย งานภูมิสถาปัตย์ ทางเชื่อมอาคาร (Skywalk) และอุปกรณ์ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่อง MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยสมองและระบบประสาท ระบบสระน้ำธาราบำบัด พร้อมเครื่องพยุงตัวแบบมีรางเลื่อน เครื่องเอกซเรย์ทั่วไประบบดิจิทัล พร้อมระบบจัดเก็บและรับ - ส่งภาพ เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล เครื่องตรวจวิเคราะห์ระบบการขับถ่ายปัสสาวะพร้อมเตียงตรวจ เครื่องตรวจวัดความหนาแน่นกระดูก อุปกรณ์ฝึกเดินโดยรีโมทควบคุมพร้อมระบบควบคุมการล้มเพื่อการรักษาและฟื้นฟู เครื่องรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดกำลังสูง รักษาอาการปวดของข้อและเอ็น เป็นต้น โดยอาคารผู้ป่วยใน 2 จะเน้นการออกแบบเพื่อดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม (dementia) ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน (delirium) ซึ่งเป็นการรับผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (dementia ward) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย รวมถึงศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (Advanced Imaging Center) จึงเป็นอาคารที่พร้อมให้การดูแลรักษาและสร้างวิทยาการด้านสมองและระบบประสาทสำหรับผู้สูงอายุแบบองค์รวมและครบวงจรให้ทัดเทียมกับระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีอาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อันจะนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และการถ่ายทอดวิทยาการแก่บุคลากรทางสุขภาพทุกระดับ รวมถึงกลุ่มดูแลผู้ป่วยสูงอายุสมองเสื่อม เช่น ญาติหรือผู้ดูแลในสถานบริบาลต่าง ๆ ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญในการร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก เป็นพลังขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมให้สังคมไทยสูงวัยแบบสมบูรณ์ต่อไป
ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ใช้งบประมาณก่อสร้างรวม 3,200 ล้านบาท ได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินจำนวน 889.90 ล้านบาท โดยศิริราชจะต้องจัดหาเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการก่อสร้างและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อระดมเงินทุนเป็นระยะ ๆ อาทิ จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ศิริราช - สมุทรสาคร เพื่อผู้สูงวัย ในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2566 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร กิจกรรมศิริราชการกุศล สาครบุรี สายนทีแห่งการให้ ในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 ณ ลานริมน้ำศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมแรกของปี 2566 ที่จะเกิดขึ้น คือ “การจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ศิริราช - สมุทรสาคร เพื่อผู้สูงวัย” ชิงถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2566 เวลา 05.00 - 08.00 น. ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร ระยะทาง 3 กม. และ 10.5 กม. อัตราค่าสมัคร 600 และ 800 บาทตามลำดับ ส่วนวีไอพีค่าสมัคร 2,000 บาท โดยแบ่งเป็น
- เดินเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กม. ไม่มีการแข่งขัน จะปล่อยตัวเวลา 05.15 น. จุดปล่อยตัว ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร วิ่งตามลู่วิ่งในสนามกีฬาจนครบระยะ อัตราค่าสมัคร 600 บาท รับจำนวน 500 คน และพิเศษ ! สามารถพาผู้สูงอายุมาวิ่งด้วยกันได้ฟรี 1 ท่าน
- วิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 ก.ม. กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มไม่จำกัดอายุ (ชายและหญิง) ปล่อยตัวเวลา 05.00 น. สำหรับเส้นทางการวิ่ง จุดปล่อยตัวจะเริ่มต้นจาก สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาครเลี้ยวซ้าย ไปยังถนนเอกชัย มุ่งหน้าทางตะวันตกเฉียงใต้ไปตามถนนเอกชัย เข้าสู่เอกชัย 2 แล้วกลับตัว มุ่งหน้าทางตะวันออกไปตามถนนเอกชัย ผ่านแยกมหาชัย วิ่งตรงต่อไปตามถนนเอกชัยจนถึงซอยสินชัย และกลับตัว วิ่งกลับมาตามถนนเอกชัย ผ่านแยกมหาชัย วิ่งตรงต่อไปจนถึงสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นชัยที่สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร อัตราค่าสมัคร 800 บาท รับจำนวน 2,000 คน ส่วนประเภท VIP เข้าร่วมได้ทุกระยะ ค่าสมัคร 2,000 บาท รับจำนวน 500 คน
สำหรับงานวิ่งในครั้งนี้ จะมีการใช้ระบบ chip จับเวลาในระยะมินิมาราธอน พร้อมรายงานผลผ่านเว็บไซต์ รวมถึงระบบ Photo Search ส่งรูปเข้า Facebook ให้บริการอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีทีมบริการทางการแพทย์ดูแลความปลอดภัยให้กับนักวิ่งตลอดการแข่งขัน อีกทั้งมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้สมัครวิ่งทุกท่านด้วยประกันอุบัติเหตุ “ฟรี” คุ้มครองตลอด 24 ชม. ภายในงานยังมีซุ้มอาหาร/เครื่องดื่มจากผู้สนับสนุน และบริการรับฝากของ รวมถึงบริการที่จอดรถฟรีจำนวนมาก บริเวณใกล้เคียงพื้นที่จัดงาน
ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยรางวัลคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับนักวิ่งผู้สร้างสีสัน ได้แก่ รางวัลนักวิ่งแต่งกายแฟนซี 10 รางวัล และส่งเสริมแนวคิดการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยรางวัลนักวิ่งวัยเก๋า ประเภทเดี่ยวและทีม รวม 15 รางวัล
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสมัครและชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวน ผ่านเว็บไซต์ https://www.runlah.com/ ซึ่งผู้สมัครจะได้รับเสื้อที่ระลึก งานเดินวิ่ง ศูนย์ผู้สูงอายุศิริราช - สมุทรสาคร” พร้อมเบอร์วิ่ง (Bib) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ ระหว่างวันที่ 1 – 10 มีนาคม 2566 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเพิ่มเติม และเหรียญผู้พิชิตที่ออกแบบอย่างสวยงาม หลังเข้าเส้นชัย ส่วนวีไอพี จะได้รับเสื้อที่ระลึกเพิ่ม 1 ตัว และชุดของที่ระลึกเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยหรือพบปัญหาในการสมัคร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร. 0 2419 9980, 9981, 9983 หรือเพจเฟซบุ๊ก “งานเดินวิ่ง ศูนย์ผู้สูงอายุศิริราช -สมุทรสาคร”
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจรรโลงสังคมแห่งความเอื้อเฟื้อ และสร้างต้นแบบศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ โดยบริจาคสมทบ กองทุน“ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย” ได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น 2 โซน B และศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศาลายา จ.นครปฐม หรือบริจาคผ่านบัญชี ศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย) ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 901 - 7 - 06044 - 4, ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 016 - 4 - 57906 - 4, ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 063 - 3 - 16546 - 7 บริจาคผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS DTAC และ True โดยกด *984*100 # โทรออก ร่วมบริจาคครั้งละ 100 บาท และบริจาคออนไลน์ผ่าน https://si-eservice.mahidol.ac.th/donation
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร. 0 2414 1555, 0 2414 1888 ในวันและเวลาราชการ
…………………………………………………………
No comments:
Post a Comment